สายพันธุ์หมู : ความรู้เบื้องต้นของคนเลี้ยงหมู
สายพันธุ์หมู หมูเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ จัดอยู่ในวงศ์สุกร (Suidae) หมูมีต้นกำเนิดมาจากหมูป่า (Sus scrofa) ซึ่งพบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก หมูเป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จึงสามารถเลี้ยงได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก
สายพันธุ์หมูในปัจจุบันมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีมีลักษณะและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น เลี้ยงเพื่อผลิตเนื้อ เลี้ยงเพื่อผลิตไขมัน หรือเลี้ยงเพื่อผลิตลูกหมู เป็นต้น
สายพันธุ์ หมูในประเทศไทย
ในประเทศไทยมีสายพันธุ์หมูที่ได้รับความนิยมอยู่หลายสายพันธุ์ ได้แก่
- หมูพันธุ์แลนด์เรซ (Landrace) เป็นหมูประเภทเนื้อที่ให้เนื้อคุณภาพดี ลำตัวมีสีขาวตลอดตัว หัวโตปานกลาง หูตั้ง ตัวเมียให้ลูกดก และเลี้ยงลูกเก่ง
- หมูพันธุ์ลาร์จไวท์ (Large White) เป็นหมูประเภทเบคอนที่ให้เนื้อไขมันแทรกน้อย ลำตัวมีสีขาวตลอดตัว หัวโตปานกลาง หูตั้ง ตัวเมียให้ลูกดก และเลี้ยงลูกเก่ง
- หมูพันธุ์ดูร็อคเจอร์ซี่ (Duroc Jersey) เป็นหมูประเภทเนื้อที่มีกล้ามเนื้อมาก ลำตัวมีสีแดงเข้มจนถึงอ่อน หัวโตปานกลาง หูย้อยไปข้างหน้า
- หมูพันธุ์เปียแตรง (Pietrain) เป็นหมูประเภทเนื้อที่มีกล้ามเนื้อมาก ลำตัวมีสีขาวชมพู หูตั้ง หลังตรง ลำตัวยาว เลี้ยงลูกเก่ง
- หมูพันธุ์หมูพื้นเมือง เป็นหมูที่เลี้ยงตามชนบท มีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีลักษณะแตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วมักมีขนาดเล็ก ลำตัวมีสีดำหรือน้ำตาล เลี้ยงง่าย ทนต่อโรค
ลักษณะและจุดเด่นของ สายพันธุ์หมู
สายพันธุ์หมูแต่ละสายพันธุ์มีมีลักษณะและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- ลักษณะ
สายพันธุ์หมูแต่ละสายพันธุ์จะมีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น หมูประเภทเนื้อจะมีลำตัวยาว ไหล่กว้าง ขาสั้น หมูประเภทเบคอนจะมีลำตัวยาว ไหล่แคบ ขายาว หมูประเภทลูกหมูจะมีลำตัวสั้น ไหล่กว้าง ขาสั้น
- ขนาด
สายพันธุ์หมูแต่ละสายพันธุ์จะมีขนาดที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น หมูประเภทเนื้อจะมีขนาดใหญ่ โตเร็ว หมูประเภทเบคอนจะมีขนาดปานกลาง โตเร็ว หมูประเภทลูกหมูจะมีขนาดเล็ก โตเร็ว
- น้ำหนัก
สายพันธุ์หมูแต่ละสายพันธุ์จะมีน้ำหนักที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น หมูประเภทเนื้อจะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 100-200 กิโลกรัม หมูประเภทเบคอนจะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 60-100 กิโลกรัม หมูประเภทลูกหมูจะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 10-20 กิโลกรัม
- ผลผลิต
สายพันธุ์หมูแต่ละสายพันธุ์จะมีผลผลิตที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น หมูประเภทเนื้อจะให้เนื้อประมาณ 50-70% ของน้ำหนักตัว หมูประเภทเบคอนจะให้เนื้อประมาณ 70-80% ของน้ำหนักตัว หมูประเภทลูกหมูจะให้ลูกหมูประมาณ 10-12 ตัวต่อแม่หมู
- อายุขัย
สายพันธุ์หมูแต่ละสายพันธุ์จะมีอายุขัยที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น หมูประเภทเนื้อจะมีอายุขัยประมาณ 6-8 ปี หมูประเภทเบคอนจะมีอายุขัยประมาณ 5-7 ปี หมูประเภทลูกหมูจะมีอายุขัยประมาณ 2-3 ปี
การคัดเลือกสายพันธุ์หมู
การคัดเลือกสายพันธุ์หมูควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง
หากต้องการเลี้ยงหมูเพื่อผลิตเนื้อ ควรเลือกสายพันธุ์หมูประเภทเนื้อ หากต้องการเลี้ยงหมูเพื่อผลิตเบคอน ควรเลือกสายพันธุ์หมูประเภทเบคอน หากต้องการเลี้ยงหมูเพื่อผลิตลูกหมู ควรเลือกสายพันธุ์หมูประเภทลูกหมู
- สภาพแวดล้อมในการเลี้ยง
หากเลี้ยงหมูในระบบปิด ควรเลือกสายพันธุ์หมูที่ทนต่อสภาพอากาศและโรคได้ดี หากเลี้ยงหมูในระบบเปิด ควรเลือกสายพันธุ์หมูที่ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี
- ลักษณะและจุดเด่นของสายพันธุ์หมู
ควรเลือกสายพันธุ์หมูที่มีลักษณะและจุดเด่นที่ตรงตามความต้องการ เช่น หากต้องการหมูที่ให้เนื้อคุณภาพดี ควรเลือกสายพันธุ์หมูประเภทเนื้อที่มีกล้ามเนื้อมาก หากต้องการหมูที่ให้เบคอนคุณภาพดี ควรเลือกสายพันธุ์หมูประเภทเบคอนที่มีไขมันแทรกน้อย เป็นต้น
สรุป
สายพันธุ์หมูเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงหมู การเลือกสายพันธุ์หมูที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง สภาพแวดล้อมในการเลี้ยง และลักษณะและจุดเด่นของสายพันธุ์หมู จะช่วยให้สามารถผลิตหมูที่มีผลผลิตและคุณภาพดีได้ตามต้องการ
อ่านเรื่องเพิ่มเติมได้ทีี่ : pigletsparadise.com